วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผลการประเมินวิทยฐานะครูชำนาญการ

การเดินทางจากบ้านพักกว่าจะไปถึงโรงเรียนของผู้รับการประเมินเกือบ 100 กม.  ทำเอาเหนื่อยแทบแย่  เพราะต้องขับรถไปเอง  แถมถนนทางเข้าโรงเรียนของผู้รับการประเมินก็เป็นถนนดินลูกรังที่ยังเฉอะแฉะจากน้ำฝนที่เทลงมายังกะฟ้ารั่วทั้งคืนยันเช้า ท่านประธาน อ.ก.ค.ศ. ที่เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของการประเมินวันนี้ซึ่งนั่งรถไปด้วยท่านบอกว่า ถือว่าเป็นการเดินทางที่โชคดี  เพราะไม่มีฝุ่นคลุ้งเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา  แต่ผมได้แต่นึกในใจว่ามีฝุ่นดีกว่าถนนเละ ๆ แบบนี้  สังเกตสองข้างทางชาวบ้านเขาจะทำนาหยอดหลุม ไม่ได้มีการปักดำเหมือนปีก่อน ๆ เพราะปีนี้ฝนมาล่าช้ากว่าทุกปี  ก็ได้แต่สงสารชาวนาไทยที่จน และจน ไม่ว่าฝนจะท่วมน้ำจะแล้ง
จากการติดตามประเมินครูสายผู้สอนเพื่อให้มีวิทยฐานะชำนาญการ ปรากกฏว่า 
โรงเรียนแรกมีการเตรียมการไว้เป็นอย่างดีทั้ง ๓ ด้าน เด็ก ๆ สดใส กล้าพูดคุยกับคนแปลกหน้า  ทั้งที่ชุมชนแถวนั้นเป็นชาวส่วย 
พอไปโรงเรียนที่ ๒ พบว่า เอกสารครบ ผู้รับการประเมินมีความตั้งใจสูง  แต่ขาดการทำงานแบบเป็นทีมและไม่ใช้เทคโนโลยีอะไรเลยทั้งในการนำเสนอและการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน  เด็ก ๆ ไม่กล้าแสดงออก ทั้งที่เด็กโตกว่าโรงเรียนแรกและเป็นชาวส่วยเหมือนกัน 
พอไปโรงเรียนที่  ๓  พบว่า เอกสารครบ เด็ก ๆ กล้าแสดงออก เล่นสนุกกับผู้ประเมิน กิจกรรมเด่นคือการจัดการเรียนรู้โดยใช้เพลง ทำให้เด็กอารมณ์ดีมาก
พอถึงโรงเรียนที่ ๔ ซึ่งมีผู้รอรับการประเมินถึง ๒ คน พบว่า เอกสารครบ ผู้ประเมินมีผลงานดีเด่นหลายอย่างทั้งระดับอำเภอและเขตพื้นที่ แต่ไม่ได้คุยกับเด็ก ๆ เพราะเป็นเวลาหลังเลิกเรียนแล้ว
ปัญหาที่พบของทุกโรงเรียน คือ ครูสอนเก่ง แต่ขาดทักษะการนำเสนองาน  และยังเขียนงานไม่เป็น และพบเหมือนกันทุกแห่งว่า หากผู้บริหารมีความเป็นผู้นำทางวิชาการ ครูจะเตรียมตัวดี เด็กจะกล้าแสดงออก จนท่านประธาน อ.ก.ค.ศ. สรุปเป็นผญาไว้ว่า  "อยากฮู้จักผ่อแหม่ให้เบิ่งลูกเบิ่งหลาน อยากฮู้จักสมภารให้เบิ่งจั่วน้อย"
ดูท่าจะจริงเหมือนท่านว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น